วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คณะผู้จัดทำ


ภาคผนวก

คณะผู้จัดทำ





ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล : นฤมล     แซ่ตัน
เกิด : 21 กุมภาพันธ์  2539
อายุปัจจุบัน : 16 ปี
ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 20/1  หมู่ที่ 2  ตำบลวังคัน อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี รหัสไปรษณีย์ 72180 
โทรศัพท์ : 0822914461
สถานศึกษาปัจจุบัน : โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 3
เลขที่ 9 หมู่ 17 ตำบลด้านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี 
รหัสไปรษณีย์ 72180 โทรศัพท์ 035-5950056 โทรสาร 035-595623
ผลการเรียน เฉลี่ยสะสม 5 ภาคเรียน (ม.4 - ม.6 เทอม 1) : 3.31
คติพจน์ : สิ่งที่ง่ายมักไม่ดี สิ่งที่ดีมันต้องยาก
ความสามารถพิเศษ : เล่นกีฬาวอลเล่ย์บอล เล่นเกมSUDOKU


ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล : นางสาวสุวภัทร  ศรีสังข์
เกิด : 11
มิถุนายน พ.ศ. 2537
อายุปัจจุบัน : 18
ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 14  หมู่ที่
19  ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี รหัสไปรษณีย์ 72180
โทรศัพท์ : 0895302346
สถานศึกษาปัจจุบัน : โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 3
เลขที่ 9 หมู่ 17 ตำบลด้านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
รหัสไปรษณีย์ 72180 โทรศัพท์ 035-5950056 โทรสาร 035-595623
www.banhan3.ac.th
ผลการเรียน เฉลี่ยสะสม 5 ภาคเรียน (ม.4 - ม.6 เทอม 1) : 2.91
คติพจน์
ทำวันนี้ให้เต็มที่
ความสามารถพิเศษ :
วาดภาพ,ภาษาเกาหลี


ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล : นางสาวสุภัคษา                เซี่ยงหลิม
เกิด : 1
กรกฎาคม พ.. 2537
อายุปัจจุบัน :
18 ปี
ที่อยู่ : บ้านเลขที่
109/42  หมู่ที่10  ตำบลหนองมะค่าโมง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี รหัสไปรษณีย์ 72180
โทรศัพท์ : 0843584608
สถานศึกษาปัจจุบัน : โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 3
เลขที่ 9 หมู่ 17 ตำบลด้านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
รหัสไปรษณีย์ 72180 โทรศัพท์ 035-5950056 โทรสาร 035-595623
www.banhan3.ac.th
ผลการเรียน เฉลี่ยสะสม 5 ภาคเรียน (ม.4 - ม.6 เทอม 1) : 2.71
คติพจน์
ชีวิตยังมีวันพรุ่งนี้เสมอ
ความสามารถพิเศษ :
เล่นกีฬา

ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล : นางสาวสายพิรุณ   อุทา
เกิด : 2
ธันวาคม พ.ศ. 2537
อายุปัจจุบัน : 18
ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 1/1  หมู่ที่ 1  ตำบลวังยาว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี รหัสไปรษณีย์ 72180
โทรศัพท์ : 0912630064
สถานศึกษาปัจจุบัน : โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 3
เลขที่ 9 หมู่ 17 ตำบลด้านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
รหัสไปรษณีย์ 72180 โทรศัพท์ 035-5950056 โทรสาร 035-595623
www.banhan3.ac.th
ผลการเรียน เฉลี่ยสะสม 5 ภาคเรียน (ม.4 - ม.6 เทอม 1) : 3.17
คติพจน์
ฝันให้ไกล ไปให้ถึง
ความสามารถพิเศษ :
เล่นกีฬาวอลเล่ย์บอล










วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทที่ 3 วิธีการศึกษา


บทที่ 3 วิธีการศึกษา

            การศึกษาการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขั้นตอนการทำก้อนปลูกและเพื่อทำการทดลองปลูกต้นไม้คณะผู้รายงานกำหนดขั้นตอน/วิธีการศึกษาไว้ ดังนี้

วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้
                1. เปลือกส้มโอ                    8              กรัม                           
 
               2.
แป้งมันสำปะหลัง          4              ช้อนชา 
 
               3.
มีด                                     1              อัน
 
               4. กาบมะพร้าว                    5              กรัม                              
 
               5. เตาแก๊ส                            1              เตา
               
6. หม้อ                             1         อัน                   
                7. ท่อพีวีซี                             1
              อัน         
                8. ดินบด
                               250         กรัม
               
9. ท่อเหล็ก                           1              อัน
               
10. เขียง                                                1              อัน
               
11. มีด                                   1              เล่ม
               
12. ตาชั่ง                               1              อัน

วิธีการ/ขั้นตอนการศึกษา
ขั้นตอนการเตรียมวัสดุอุปกรณ์
                1. เตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการทดลอง
                2. เตรียมกาบมะพร้าว
                3. ลอกเปลือกมะพร้าวเป็นฝอยๆ
                4. เตรียมดินประมาณ 250 กรัม
                5. เตรียมเปลือกส้มโอ
                6.สับเปลือกส้มโอให้ละเอียด
ขั้นตอนการลงมือปฏิบัติ
1. นำเปลือกส้มโอที่เตรียมไว้มาตากแดด สักประมาณ 4 ชั่วโมง
2. นำกากมะพร้าวที่ฉีกเป็นฝอยมาสับให้ละเอียดอีกที

3. นำดินที่เตรียมไว้มาผสมรวมกับกาบมะพร้าวและเปลือกส้มโอ ผสมเข้ากันแล้วนำไปตากแดดต่ออีก 2 ชั่วโมง
4. นำแป้งมันสำปะหลัง  4 ช้อนชา มาผสมเข้ากับน้ำครึ่งถ้วย แล้วนำไปตั้งไฟอ่อนๆแล้วคนจนเนื้อแป้งมีลักษณะเหนียว ในปริมาณที่ต้องการ
5. นำส่วนผสมของกาบมะพร้าว ดินบด และเปลือกส้มโอมาผมสร่วมกับเนื้อแป้งมันสำปะหลัง คนให้เข้ากัน


6. นำส่วนผสมทั้งหมดมาอัดลงท่อเหล็ก แล้วนำมาอังไฟอ่อนๆ อีกประมาณ 1 ชั่วโมง

7. นำก้อนปลูกที่อยู่ในท่อเหล็กออกมาตากแดดอีก 3 วัน












วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา


บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา

            การศึกษาการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขั้นตอนการทำก้อนปลูกและเพื่อทำการทดลองปลูกต้นไม้สามารถสรุปผลการศึกษาได้ดังนี้

สรุปผลการศึกษา
           
1. จากการศึกษาการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ  ผลการสรุปได้ว่าการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอต้องใช้ เวลา และความอดทนในการทำก้อนปลูกเนื่องจากต้องใช้เวลาในการทำหลายวัน ผลที่ออกมาเปลือกส้มโอสามารถทำเป็นก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ
             2. จากศึกษาผลการปลูกต้นไม้จากก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ ผลการทดลองสรุปได้ว่าก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอสามารถใช้ปลูกต้นไม้ได้


ปัญหา
/อุปสรรค/ข้อเสนอแนะ
                            การศึกษาการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ เพื่อศึกษาขั้นตอนการทำก้อนปลูกและเพื่อทำการทดลองปลูกต้นไม้ อุปสรรค์และข้อเสนอแนะดังนี้
                1. ในการทดลองทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอต้องหลายรอบ ทำครั้งแรก ก้อนปลูกที่ทำแตก เนื่องจากเนื้อแป้งที่นำมาผสมแข็งเกินไป ครั้งที่ 2  ก้อนปลูกที่ทำแตก ไม่สมบรูณ์ ก้อนปลูกที่ได้สมบรูณ์
               2. สารภายในเปลือกส้มโอออกมามากเมื่อนำมาผสม  จึงแก้ปัญหาโดยนำเปลือกส้มโอไปตากแดดให้แห้งก่อนนำมาทำก้อนปลูก
                3. แป้งมันสำปะหลังที่ทำออกมามีลักษณะเป็นก้อนเป้นกลุ่มไม่สามารถนำมาผสมกับส่วนประอื่นๆได้ แก้ไขโดยการผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่มากกว่าแป้งมันสำปะหลัง แล้งตั้งไฟอ่อนๆ
               


บทที่ 4 ผลการศึกษา


บทที่ 4  ผลการศึกษา
     การศึกษาการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขั้นตอนการทำก้อนปลูกและเพื่อทำการทดลองปลูกต้นไม้มีผลการศึกษา ดังนี้

1.             ผลการศึกษาการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ

ครั้งที่
วัน/เดือน/ปี
การทดลอง
หมายเหตุ
1
3 สิงหาคม 55
   ก้อนปลูกที่ทำแตก เนื่องจากเนื้อแป้งที่นำมาผสมแข็งเกินไป
-
2
5 สิงหาคม 55
ก้อนปลูกที่ทำแตก ไม่สมบรูณ์
-
3
8 สิงหาคม 55
สมบรูณ์
-

                 จากตารางที่ 1 จากการศึกษาการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ สามารถสรุปได้ดังนี้ การทำครั้งแรก ในวันที่ 3 สิงหาคม 55 ผลที่ได้คือ ก้อนปลูกที่ทำแตก เนื่องจากเนื้อแป้งที่นำมาผสมแข็งเกินไป ครั้งที่ 2 วันที่ 5 สิงหาคม 55 ผลที่ได้คือ ก้อนปลูกที่ทำแตก ไม่สมบรูณ์ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 8 สิงหาคม 55ผลที่ได้ คือ ก้อนปลูกที่ได้สมบรูณ์








                2.ผลการศึกษาการทดลองปลูกต้นไม้โดยก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอเป็นดังตารางที่ 2

ตารางที่ 2 การทดลองปลูกต้นไม้จากก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ

สัปดาห์ที่
วัน/เดือน/ปี
ผลการสังเกตการทดลอง
หมายเหตุ
1
19 สิงหาคม 55
มียอดโผล่ออกมาเล็กน้อย
-
2
26 สิงหาคม 55
เริ่มมีลำต้นโผล่ขึ้นมา 3 มม.
-
3
2 กันยายน 55
เริ่มมีใบงอกออกมา
-
4
9 กันยายน 55
ลำต้นเริ่มสูงเพิ่มขึ้น
-


                จากตารางที่ 2 จากการศึกษาโดยใช้ก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอสามารถสรุปได้การทดลองได้ดังนี้ ในสัปดาห์ที่ 1 วันที่ 19 สิงหาคม 55 ผลการสังเกตพบว่า มียอดโผล่ออกมาเล็กน้อย ในสัปด่ห์ที่ 2  วันที่ 26 สิงหาคม 55 ผลการสังเกตพบว่า เริ่มมีลำต้นโผล่ขึ้นมา 3 มม. ในสัปดาห์ที่ 3 วันที่ 2 กันยายน 55 ผลการสังเกตพบว่า เริ่มมีใบงอกออกมา ในสัปดาห์ที่ 4 วันที่ 9 กันยายน 55 ผลการสังเกตพบว่า ลำต้นเริ่มสูงเพิ่มขึ้น
               



บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง


บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง

            การศึกษาการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขั้นตอนการทำก้อนปลูกและเพื่อทำการทดลองปลูกต้นไม้ผู้ศึกษาได้ทำการค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ดังมีหัวข้อต่อไปนี้
                1. ส่วนประกอบของส้มโอ
                2. ความเป็นมาของก้อนเพาะปลูก
               
1.             ส่วนประกอบของส้มโอ
       ส้มโอเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง  เปลือกของส้มโอจะมีน้ำมันหอมระเหยเมื่อเราสูดหายใจเข้าไปจะกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัว ช่วยคลายเครียด สรรพคุณ : ส้มโออุดมไปด้วยวิตามินซี และแร่ธาตุ  โปรตีนคาร์โบไฮเดรตช่วยบำรุงร่างกาย แคลเซียมช่วยบำรุงกระดุกและฟัน  เหล็ก ฟอสฟอรัสวิตามินบี 1 ช่วยในการย่อยอาหาร เสริมสร้างการทำงานของหัวใจวิตามินบี 2 ช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเม็ดเลือด วิตามินซีช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน  ประโยชน์ : เปลือกส้มโอมีคุณสมบัติที่ทำให้ภาชนะที่ทำจากอลูมิเนียมดูเหมือนใหม่ โดยการนำเปลือกส้มโอมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มในน้ำเดือดประมาณ 20 นาที แล้วนำเปลือกส้มโอที่ต้มแล้ว มาขัดถูกับภาชนะพร้อมกับสบู่ ทำให้ภาชนะมีความใส เงางามเหมือนใหม่ (ที่มา :http://www.oknation.net/blog/lammai/2010/12/09/entry-1)      สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น นำไปกลบใต้ต้นไม้กลายเป็นปุ๋ยโดยไม่ต้องเน่าเสียไปเฉย ๆ หรือเปลือกทุเรียนสามารถนำไปตากแห้งเป็นเชื้อเพลิงได้ ส่วนเปลือกส้มโอก็เช่นเดียวกัน  คือ นำมาต้มทิ้งไว้สักพัก จากนั้นก็นำด้านในของเปลือกส้มโอ มาขัดถูกภาชนะพวกอลูมิเนียม ตะหลิว ทัพพี ฯลฯ ก็จะทำให้สิ่งของเหล่านั้น เป็นเงางามเหมือนใหม่อีกครั้ง
          เปลือกส้มโอส่วนที่มีสีขาวคือส่วนของเปลือกผลชั้นกลาง (mesocarp) มีชื่อเรียกว่า albedo และส่วนสีเขียวที่อยู่ภายนอกสุดคือเปลือกผลชั้นนอก (exocarp) มีชื่อเรียกว่า flavedo สารสำคัญที่พบในเปลือกส้มโอ (ทั้งส่วนที่เขียวและสีขาว) ส่วนใหญ่จะเป็นสารกลุ่มของน้ำมันหอมระเหย และสารกลุ่ม flavonoids เช่น naringenin, naringin, hesperetin, hesperidin, apigenin, poncirin และ eriocitin มีรายงานการวิจัยว่าสารสกัดเฮกเซนและสารสกัดเอทานอลของเปลือกส้มโอส่วนที่มีสีขาวมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคในทางเดินอาหาร เช่น Bacillus cereus, B. subtilis, Listeria monocytogenes, Staphylococcus aureus, Escherichia coli  และ Salmonella typhimurium  สรรพคุณตามตำรายาไทยพบว่าเปลือกผลใช้เป็นยาขับลม ช่วยขับเสมหะ แก้อึดอัด แน่นหน้าอก ไอ จุกแน่น ปวดท้องน้อย และยังไม่มีการศึกษาความเป็นพิษจากการรับประทานเปลือกผลส้มโอ(ที่มา :http://www.medplant.mahidol.ac.th/user/reply.asp?id=5694)
ทำการสกัดสารจากเปลือกส้มโอ (Citrus grandis, L. osbeck.) ทั้งส่วนสีเขียวและส่วนสีขาว 4 สายพันธุ์คือ พันธุ์ทองดี, ขาวแป้น, ขาวใหญ่ และปัตตาเวีย เพื่อหาสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา C. cladosporioides สกัดโดยใช้เอทธานอล 95% และไดคลอโรมีเทน ทั้ง 4 สายพันธุ์ ไม่พบแถบสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา สารสกัดจากเปลือกส้มโอส่วนที่มีสีเขียวที่สกัดโดยใช้เอทธานอล 95% ทั้ง 4 สายพันธุ์ ก็ไม่พบแถบสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราเช่นกัน สารสกัดจากเปลือกส้มโอ ส่วนสีเขียวที่สกัดโดยใช้ไดคลอโรมีเทน สายพันธุ์ปัตตาเวีย ไม่พบแถบสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา สายพันธุ์ขาวใหญ่ พบแถบสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา 3 บริเวณ คือ Rf 0.80, 0.50 และ 0.30 สายพันธุ์ทองดีและขาวแป้น พบแถบสารที่สามารถายับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา 3 บริเวณ ที่ตำแหน่งเดียวกันคือ Rf 0.70, 0.48 และ 0.33 สารสกัดจากเปลือกส้มโอ ส่วนสีเขียวพันธุ์ทองดี Rf 0.70 เมื่อนำไปหา minimum inhibitory concentration (MIC) พบว่าที่ค่าความเข้มข้นของสาร 99.25 ไมโครกรัม/ไมโครลิตร สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้ จากการวิเคราะห์โครงสร้างของสารสกัดจากเปลือกส้มโอ ส่วนสีเขียวพันธุ์ทองดี โดยแกสโครมาโตกราฟีแมสสเปคโตรสโคปี (GC-MC), อินฟราเรดสเปคโตรสโคปี และอัลตราไวโอเลทสเปคโตรสปี พบว่าสารสกัด Rf 0.70, 0.48 และ 0.33 เป็นสารที่มีหมู่ฟังก์ชันของแอลกอฮอล์และเอสเทอร์ (-OH) (C=O) เป็นองค์ประกอบ(ที่มา :http://www.phtnet.org/research/view-abstract.asp?research_id=ag070)

2. ความเป็นมาของก้อนเพาะปลูก
 ก้อนเพาะปลูกมหัศจรรย์ วัสดุปลูกจากขุยมะพร้าวผสมหินบด แร่บดและสารอาหารของพืชนำมาอัดเป็นก้อนผ่านความร้อนสูง สะอาดไม่มีเชื้อราหรือต้องมากังวลกับวัชพืชซึ่งมักจะติดมากับดินถุงที่หาซื้อได้ทั่วไป ก้อนเพาะปลูกมหัศจรรย์ ก็คือขุยมะพร้าวที่อัดแน่นใช้แทนกระถาง อุดมไปด้วยสารอาหารสำหรับพืชพอเพียงยาวนานถึงกว่า 2 ปี ก้อนเพาะปลูกมหัศจรรย์ ใช้แทนกระถาง ไม่ง้อดินและปุ๋ยกรีนลาเต้ส์ได้มีโอกาสไปเดินชมงานเกษตรพอเพียงซึ่งจัดผ่านไปเร็วๆ นี้ ในงานมีสินค้าเกษตรและนวัตกรรมที่มาจากความคิดสร้างสรรค์ของเกษตรกรตัวจริงมากมาย หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังกล่าวถึงคือ ก้อน เพาะปลูกมหัศจรรย์ เป็นงานวิจัยของคนไทยที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้าใช้ได้จริง มีรางวัลมากมายเป็นตัวรับประกันถึงคุณภาพและคุณประโยชน์ที่มีต่อพืชก้อนเพาะปลูกที่ทำขึ้นด้วยขุยมะพร้าว มีส่วนผสมของหินบด แร่บดและสารอาหารจำเป็นของพืช นำมาอัดเป็นก้อนใช้แทนกระถาง มีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้ตามขนาดของพืช ไม่มีเศษดินหกเลอะเทอะเวลารดน้ำทำให้เป็นที่นิยมนำไปใช้สำหรับเพาะปลูกในสถานที่ต่างๆ ทั้งภายในอาคารและภายนอก(ที่มา :http://www.greenlattes.com/green-design-ideas/green-garden-ideas/311-plant-with-coir-pot)

ก้อนปลูกมหัศจรรย์http://www.manager.co.th/images/blank.gif
 ผลงานดังกล่าวมาจากคนช่างคิดช่างทำ อย่าง “อรชุน แก้วกังวาล” กรรมการผู้จัดการบริษัท รุ้งสวรรค์ จำกัด ซึ่งบุกเบิกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2535 โดยพื้นฐานเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สาขาเทคโนโลยีการผลิตอุตสาหกรรม เคยทำงานอยู่ที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ถึง 25 ปี ก่อนออกมาประกอบอาชีพส่วนตัว
http://www.manager.co.th/images/blank.gif
       เขา เล่าว่า รักการทำเกษตรมาก ในช่วงแรกขุดบ่อเลี้ยงปลาสวยงาม และทาบกิ่งต้นไม้ขายควบคู่กันไป ทว่า พบปัญหายุ่งยากเรื่องการดูแลต้นไม้ ที่ต้องคอยใส่ปุ๋ย พรวนดิน และรดน้ำต้นไม้ จุดนี่เองทำให้อยากหาวิธีที่จะดูแลต้นไม้ได้ง่ายๆ จึงทดลองทำก้อนเพาะปลูกต้นไม้ที่อยู่รอดและเติบโตได้เอง โดยไม่ต้องคอยใส่ปุ๋ยพรวนดิน ซึ่งกว่าจะสำเร็จใช้เวลากว่า 3 ปี กับทุนอีกหลักแสนบาท
http://www.manager.co.th/images/blank.gif
   ปลูกต้นคุณนายตื่น  สายก้อนเพาะปลูกมหัศจรรย์ ทำจากวัสดุหลักประกอบด้วย ขุยมะพร้าว และหินบด-แร่บด ซึ่งประกอบไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นของต้นไม้กว่า 10 ชนิด โดยขั้นตอนผลิตเริ่มจากนำขุยมะพร้าวผสมหินบด-แร่บด นำไปอัดเป็นก้อน หลังจากนั้นนำมาฆ่าเชื้อ โดยผ่านความร้อนสูง เพื่อฆ่าเชื้อรา แล้วใส่บรรจุภัณฑ์
http://www.manager.co.th/images/blank.gif
  ทั้งนี้ ก้อนเพาะที่ผ่านกระบวนการผลิตจะมีความโปร่งไม่แน่นตัว ทำให้รากต้นไม้สามารถกระจายได้ทั่วถึง รวมถึง ก้อนเพาะยังสามารถเก็บความชื้นได้นานและอุ้มน้ำได้ดี เมื่อถูกน้ำแล้วไม่ยุบตัวหรือเปื่อยยุ่ย สามารถนำไปปลูกพืชใต้น้ำได้ด้วย
     อรชุน อธิบายต่อว่า จากการทดลอง สามารถปลูกต้นไม้ได้กว่า 300 ชนิด เช่น กล้วยไม้ ตะบองเพชร ผักปลอดสารพิษ ไม้น้ำ ไม้ว่าน ฯลฯ ยกเว้นเฉพาะพืชที่มีระบบรากแรง เพราะรากจะเติบโตจนแทงทะลุทำให้ก้อนเพาะแตก สำหรับอายุใช้งานอย่างต่ำ 2 ปีโดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยเพิ่ม แต่พืชบางชนิด เช่น ตะบองเพชร จากวันแรกที่ทดลองปลูกถึงปัจจุบันกว่า 15 ปี ก็ยังอยู่รอดได้  สำหรับวิธีการปลูก เริ่มจากนำก้อนเพาะปลูกไปแช่ในน้ำ ประมาณ 2-24 ชม. จากนั้น ขุดหลุมบนก้อนเพาะปลูก เพื่อทำการปลูก ซึ่งทำได้หลากหลาย ทั้งเพาะเมล็ด ปักชำ หรือย้ายกล้ามาปลูก เป็นต้น ส่วนการดูแลแค่วางก้อนเพาะปลูกในพื้นที่ร่มหรือกลางแจ้งตามความเหมาะสมของพืชแต่ละชนิด จากนั้น รดน้ำดูแลตามปกติ หรือในกรณีไม่มีเวลารดน้ำ ให้วางแช่น้ำบนถาดรอง ก้อนเพาะจะดูดน้ำไปเลี้ยงลำต้นได้เอง โดยไม่ต้องคอยรดน้ำ

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทที่ 1 บทนำ


บทที่ 1 บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
             เปลือกส้มโอ ส่วนที่มีสีขาวคือส่วนของเปลือกผลชั้นกลาง (mesocarp) มีชื่อเรียกว่า albedo และส่วนสีเขียวที่อยู่ภายนอกสุดคือเปลือกผลชั้นนอก (exocarp) มีชื่อเรียกว่า flavedo สารสำคัญที่พบในเปลือกส้มโอ (ทั้งส่วนที่เขียวและสีขาว) ส่วนใหญ่จะเป็นสารกลุ่มของน้ำมันหอมระเหย และสารกลุ่ม flavonoids เช่น naringenin, naringin, hesperetin, hesperidin, apigenin, poncirin และ eriocitin มีรายงานการวิจัยว่าสารสกัดเฮกเซนและสารสกัดเอทานอลของเปลือกส้มโอส่วนที่มีสีขาวมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคในทางเดินอาหาร เช่น Bacillus cereus, B. subtilis, Listeria monocytogenes, Staphylococcus aureus, Escherichia coli  และ Salmonellatyphimurium  สรรพคุณตามตำรายาไทยพบว่าเปลือกผลใช้เป็นยาขับลม ช่วยขับเสมหะ แก้อึดอัด แน่นหน้าอก ไอ จุกแน่น ปวดท้องน้อย และยังไม่มีการศึกษาความเป็นพิษจากการรับประทานเปลือกผลส้มโอ
ทำการสกัดสารจากเปลือกส้มโอ (Citrus grandis, L. osbeck.) ทั้งส่วนสีเขียวและส่วนสีขาว 4 สายพันธุ์คือ พันธุ์ทองดี, ขาวแป้น, ขาวใหญ่ และปัตตาเวีย เพื่อหาสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา C. cladosporioides สกัดโดยใช้เอทธานอล 95% และไดคลอโรมีเทน ทั้ง 4 สายพันธุ์ ไม่พบแถบสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา สารสกัดจากเปลือกส้มโอส่วนที่มีสีเขียวที่สกัดโดยใช้เอทธานอล 95% ทั้ง 4 สายพันธุ์ ก็ไม่พบแถบสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราเช่นกัน สารสกัดจากเปลือกส้มโอ ส่วนสีเขียวที่สกัดโดยใช้ไดคลอโรมีเทน สายพันธุ์ปัตตาเวีย ไม่พบแถบสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา สายพันธุ์ขาวใหญ่ พบแถบสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา 3 บริเวณ คือ Rf 0.80, 0.50 และ 0.30 สายพันธุ์ทองดีและขาวแป้น พบแถบสารที่สามารถายับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา 3 บริเวณ ที่ตำแหน่งเดียวกันคือ Rf 0.70, 0.48 และ 0.33 สารสกัดจากเปลือกส้มโอ ส่วนสีเขียวพันธุ์ทองดี Rf 0.70 เมื่อนำไปหา minimum inhibitory concentration (MIC) พบว่าที่ค่าความเข้มข้นของสาร 99.25 ไมโครกรัม/ไมโครลิตร สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้ จากการวิเคราะห์โครงสร้างของสารสกัดจากเปลือกส้มโอ ส่วนสีเขียวพันธุ์ทองดี โดยแกสโครมาโตกราฟีแมสสเปคโตรสโคปี (GC-MC), อินฟราเรดสเปคโตรสโคปี และอัลตราไวโอเลทสเปคโตรสปี พบว่าสารสกัด Rf 0.70, 0.48 และ 0.33 เป็นสารที่มีหมู่ฟังก์ชันของแอลกอฮอล์และเอสเทอร์ (-OH) (C=O) เป็นองค์ประกอบ
เปลือกผลไม้หลายชนิด สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น นำไปกลบใต้ต้นไม้กลายเป็นปุ๋ย โดยไม่ต้องเน่าเสียไปเฉย ๆ หรือเปลือกทุเรียนสามารถนำไปตากแห้งเป็นเชื้อเพลิงได้ ส่วนเปลือกส้มโอก็เช่นเดียวกัน(ที่มา : http://blog.eduzones.com/wanwan/14709)
“ก้อนเพาะปลูกมหัศจรรย์” วัสดุปลูกจากขุยมะพร้าวผสมหินบด แร่บดและสารอาหารของพืชนำมาอัดเป็นก้อนผ่านความร้อนสูง สะอาดไม่มีเชื้อราหรือต้องมากังวลกับวัชพืชซึ่งมักจะติดมากับดินถุงที่หาซื้อได้ทั่วไป ก้อนเพาะปลูกมหัศจรรย์ ก็คือขุยมะพร้าวที่อัดแน่นใช้แทนกระถาง อุดมไปด้วยสารอาหารสำหรับพืชพอเพียงยาวนานถึงกว่า 2 ปี...ก้อนเพาะปลูกมหัศจรรย์ ใช้แทนกระถาง ไม่ง้อดินและปุ๋ยกรีนลาเต้ส์ได้มีโอกาสไปเดินชมงานเกษตรพอเพียงซึ่งจัดผ่านไปเร็วๆ นี้ ในงานมีสินค้าเกษตรและนวัตกรรมที่มาจากความคิดสร้างสรรค์ของเกษตรกรตัวจริงมากมาย หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังกล่าวถึงคือ ก้อน เพาะปลูกมหัศจรรย์ เป็นงานวิจัยของคนไทยที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้าใช้ได้จริง มีรางวัลมากมายเป็นตัวรับประกันถึงคุณภาพและคุณประโยชน์ที่มีต่อพืช ก้อนเพาะปลูกที่ทำขึ้นด้วยขุยมะพร้าว มีส่วนผสมของหินบด แร่บดและสารอาหารจำเป็นของพืช นำมาอัดเป็นก้อนใช้แทนกระถาง มีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้ตามขนาดของพืช ไม่มีเศษดินหกเลอะเทอะเวลารดน้ำทำให้เป็นที่นิยมนำไปใช้สำหรับเพาะปลูกในสถานที่ต่างๆ ทั้งภายในอาคารและภายนอก(ที่มา : http://www.greenlattes.com/green-design-ideas/green-garden-ideas/311-plant-with-coir-pot)
เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจได้มีการขยายเติบโตขึ้นจึงเกิดเป็นชุมชนเมืองขึ้นมากมาย คนในชุมชนเมืองจึงไม่สามารถปลูกพืชได้ตามความต้องการ เนื่องจากไม่มีพื้นที่ในการปลูกต้นไม้
กลุ่มของข้าพเจ้าจึงได้ศึกษาการทำก้อนปลูกขึ้นมา เพื่อต้องงการที่จะศึกษาวิธีการทำก้อนปลูก และได้เลือกวัสดุในการทำก้อนปลูกที่สำคัญ คือ เปลือกส้มโอ เพราะมีแร่ธาตุ และวิตามิน ที่พืชต้องการ

วัตถุประสงค์
                การศึกษาการทำก้อนปลูกมหัศจรรย์จากเปลือกส้มโอครั้งนี้ กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ดังนี้

                1. เพื่อศึกษาการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ
                2. เพื่อศึกษาผลการปลูกต้นไม้จากก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ
ขอบเขตของการศึกษา
1.ด้านระยะเวลา
               
1 สิงหาคม – 9 กันยายน 2555 รวมระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ค้นคว้า และทดลองทั้งหมด 40 วัน
2.ด้านเนื้อหา
                ในการศึกษาทดลองโครงงานนี้มุ่งศึกษาการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ เพื่อนำมาทดลองปลูกต้นไม้จากการใช้ก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
                1. มีการงอกและเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ปลูกจากก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ
                2. เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษา ค้นคว้า และทดลอง ขั้นตอนในการทดลองการทำก้อนปลูกจากเปลือกส้มโอ